⛅ Chiangmai Day 3 🌿
เดินดูงานคราฟท์ที่บ้านข้างวัด / นั่งอ่านหนังสือใต้ต้นไม้ที่ Mahasamut Library / กินเบอร์เกอร์ในบรรยากาศอุ่นๆที่ Paper Spoon / และอาหารเหนือมื้อแรกที่เฮือนเพ็ญ
🍃 mood 📙
My space - Minsu
.
.
Part 1 : เดินดูงานคราฟท์ที่บ้านข้างวัด
เริ่มต้นวันด้วยร้านอาหารเช้าและพาสต้า เป็นร้านอาหารเช้าที่อยู่ในโครงการบ้านข้างวัด
เดินจากรักหลับไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว
ภายในร้านตกแต่งเป็นสไตล์คลาสสิก โทนสีไม้เข้มๆ
ชอบโซนนี้มาก เป็นหน้าต่างที่มีผ้าม่านลูกไม้พลิ้วไหวไปตามสายลม แสงแดดก็กำลังดี
อาร์ตสั่งสปาเกตตี้ผัดพริกแห้ง อร่อยมากกกกกกก
ส่วนนี่สั่งสปาเกตตี้เบสิคๆ มะเขือเทศหมู55555555
กินแล้วนะจ๊าา
ไปเช็คเอ้าท์จากที่พักแล้วเอากระเป๋ามาฝากไว้ที่ซุ้มงานคราฟท์ข้างๆบ้านรักหลับ
จะไปเดินเล่นในบ้านข้างวัดต่อแบบตัวเบาๆ
มีร้านขายเส้อผ้า งานคราฟท์กระจายอยู่ทุกซอกทุกมุมของโครงการ
ใครชอบของสไตล์นี้ เดินเพลินแน่นอน แต่ละร้านรวงแข่งกันแต่งร้านในสไตล์อุ่นๆของตัวเอง
ร้านนี้ขายถ้วย ชาม ช้อนที่ทำจากเปลือกหอย น่ารักมากกกก
ขายกำไลที่ทำจากเมล็ดพืชมั๊งนะ ถ้าจำไม่ผิด
บ้านข้างวัด
191 ถนนบ้านร่ำเปิง ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
เปิด : 10.00-18.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Baankangwat
Part 2 : นั่งอ่านหนังสือใต้ต้นไม้ที่ Mahasamut Library
สถานที่ที่ประทับใจที่สุดของวันนี้ยกให้ ห้องสมุด มาหาสมุด
เป็นห้องสมุดเล็กๆที่มีหนังสือให้ยืมอ่านมากมาย ในบรรยากาศน่ารักๆ อบอุ่น ใต้ต้นไม้ใหญ่
ที่นี่มีมุมให้อ่านหนังสือหลายที่ แต่ละโซนจัดได้น่ารัก ละมุน เข้ากับแสงแดดอ่อนๆของฤดูหนาวมากๆ
แสงแดดที่ลอดเข้ามาในห้องสมุด ทำให้มุมนี้น่านั่งอ่านหนังสือสุดๆ

ในห้องสมุดมีเครื่องดื่มให้นั่งดื่มไปพลางๆระหว่างอ่านหนังสือ เราสองคนเลือกนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่
หยิบหนังสือที่ชอบใจกันมาคนละ 1 เล่ม
อาร์ตหยิบ 1984 มาอ่าน
ส่วนเราเลือกหยิบ Shakespeare and Company
หนังสือเล่มบางๆที่น่าจะอ่านมันจบได้ใน 2 ชั่วโมง
มีน้องแมวคอยเดินผ่านไปผ่านมา เย้ายวนใจให้เราต้องไปจกพุก
ในบ้านข้างวัดมีผู้คนเดินเล่นกันมากมาย แต่ความวุ่นวายของคนข้างนอกไม่ได้ทำลายความสงบ ความอบอุ่นของบรรยากาศในห้องสมุดแห่งนี้ได้เลย เราชอบการได้ใช้เวลาอ้อยอิ่งอ่านหนังสือ ในบรรยากาศร่มรื่น มีแสงแดดอ่อนๆ มีเครื่องดื่มที่ชอบใจสักแก้ว มีหนังสือดีๆสักเล่ม พอพักสายตาจากหนังสือ หันซ้ายไปเจอคนที่เรารักนั่งอ่านอยู่ข้างๆ หันขวาไปเจอน้องแมวนอนสบายใจ เงยหน้าไปเจอต้นไม้เขียวๆ เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขสุดๆ ใครมาเชียงใหม่ อยากให้ลองมาใช้เวลาชิลๆเอื่อยๆกับการนั่งอ่านหนังสือที่นี่ค่ะ
Mahasamt Library
มาหาสมุดไลบารี่ ห้องสมุดใจใหญ่
ที่ตั้ง : โครงการบ้านข้างวัด
เปิด : 10.00-18.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
NOTE : มีเครื่องดื่ม ชาผลไม้ ต่างๆขายด้วย จริงๆที่นี่ใจใหญ่สมชื่อห้องสมุด
เพราะเขาบอกว่ามานั่งอ่านหนังสือเฉยๆไม่ซื้อเครื่องดื่มก็ได้
แต่มีห้องสมุดที่ใจดีและใจกว้างขนาดนี้ เราก็อยากอุดหนุนและสนับสนุนเขา
Part 3 : กินเบอร์เกอร์ในบรรยากาศอุ่นๆที่ Paper Spoon
ร้านกาแฟ ขนมโฮมเมด ร้านนี้ ตั้งอยู่ในเวิ้งมาลัย ไม่ไกลจากวัดอุโมงค์และบ้านข้างวัดมากนัก เดินเข้ามาในเวิ้งนี้ก็สัมผัสได้ถึงความสงบ คนไม่พลุกพล่าน (ซึ่งชอบมาก) เหมือนเป็นร้านที่รู้กันเฉพาะกลุ่ม ร้านตกแต่งได้น่ารัก โฮมมี่ โคซี่สุดๆ ด้วยความเป็นร้าน open air เลยได้รับลมและแสงธรรมชาติ ยิ่งทำให้บรรยากาศน่ารักขึ้นไปอีก
นอกจากกจะมีขนมและเครื่องดื่มขาย ยังมีโฮมเมดเบเกอร์ขายอีกด้วย
ดูบรรยากาศ ดูต้นไม้ เงาไม้พวกนี้สิคะ น่ารักไปหมดเลย
เราเลือกนั่งโต๊ะที่มีผ้าปูสีครามด้านในของร้าน ที่ถูกวางอยู่ใต้ระแนงไม้ที่มีผ้าผืนใหญ่ๆวินเทจขึงไว้เพื่อบังแดด อากาศในช่วงเดือนตุลาคม เหมาะแก่การนั่งคุย นั่งเล่นในพื้นที่ open air น่ารักๆแบบนี้ที่สุด ไม่รู้ว่าถ้ามาในฤดูร้อนจะสู้อากาศไหวมั้ยนะ คงต้องลองมาอีกรอบ
การตกแต่งร้านน่ารักอบอุ่นมากๆ ชอบการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมือนของสะสมมากกว่าไปซื้อมาใหม่ ผ้าปูโต๊ะที่หลากหลากสไตล์ เก้าอี้และโต๊ะที่ไม่ต้องเข้าเซ็ตกันก็ได้ มันดูธรรมชาติ ดูจริงใจ ดูเรียบง่ายไม่หวือหวา แต่ออกมาลงตัวด้วยมู้ดแอนอ์โทนของสิ่งของประเภทนี้อยู่แล้ว
ด้วยความที่กินๆมาตลอดช่วงเช้า เราเลยเลือกสั่งเมนูเบาๆ อย่างขนมปังเนยนม เบอเกอร์เนื้อ และน้ำมะนาวโซดา ที่ร้านขึ้นชื่อเรื่องสโคนแต่ไม่ได้ลองชิม เพราะไม่ได้ชอบสโคนเป็นพิเศษ
ขนมปังเนยนมอร่อยมาก เนยนมที่ราดบนขนมปังโฮลวีท มันชุ่มฉ่ำกำลังดี ขนมปังก็สดใหม่นุ่ม กินกับน้ำมะนามโซดาเย็นๆแล้วสดชื่นมากๆ ราคาไม่แพงมากด้วย ขนมปังประมาณ 40 บาท เครื่องดื่มถ้าเป็นโซดาราคา 60 บาท
เบเกอร์เนื้อที่สั่งมาก็อร่อยแบบไม่ได้คาดหวังว่าจะดีขนาดนี้อ่ะ ทางร้านให้เลือกชนิดของผักดองเองได้ด้วย ทุกอย่างลงตัวกลมกล่อม เนื้อกับผักดองเข้ากัน ทำให้ไม่เลี่ยนจนเกินไป ถูกใจสุดๆ
ฟาดเรียบทุกอย่าง อร่อย อิ่มกำลังดี รองท้องก่อนไปกินมื้อเย็นแบบจริงจัง
นอกจากเป็นร้านขายเครื่องดื่มและขนมแล้ว ที่นี่ยังมีโซนที่ขายสินค้ามือสองน่ารักๆอีกด้วย
เรียกแกร้บมารับจากเปเปอร์สพูน มาพักในตัวเมือง เราสองคนเลิอกพักที่ cozytel โรงแรมที่อยู่ในตัวเมือง ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ต่างๆที่เราจะไปเดินกันพรุ่งนี้ หลังจากเอาของเก็บในที่พักเรียบร้อย เราก็ออกสำรวจบริเวณรอบๆ ตามหาร้านของมือสอง และหาร้านอาหารสำหรับมื้อเย็นของเรา
แวะถ่ายรูปกับดอกไม้ ต้นไม้ข้างทางของเชียงใหม่
แวะร้าน Love 70's ร้านเสื้อผ้ามือสองวินเทจยุค 70 มีของขายเยอะมาก
มีทั้งเดรส แจ็คเก็ต กระโปรงวินเทจ กางเกง เสื้อฮาวาย
ผ้าเช็ดหน้า เนคไท กระเป๋า ใครชอบเสื้อผ้าสไตล์นี้ต้องแวะ
(พิกัด : https://goo.gl/maps/sxd7H87gqGNmg2C27)
เดินผ่านวัดพระสิงห์เจอแมวอ้วนตุ้ยนุ้ย 1 อัตรา
น้องอ้อนมาก ตอนแรกนึกว่าอยากกินหมูปิ้ง เลยแบ่งให้ แต่น้องไม่กิน
น้องต้องการเพียงได้รับการเกาตูดจากพี่อาร์ต
ในที่สุดเราก็ได้ร้านอาหารมื้อเย็นของเรา หลังจากไปเดินถนนวัวลายมา ร้านเฮือนเพ็ญ เป็นร้านอาหารเหนือ เราเลือกร้านนี้เพราะเข้าใจว่าเข้าร่วมกับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน แต่จริงๆเฮือนเพ็ญที่เข้าร่วมโครงการเป็นร้านที่เปิดในช่วงเช้าเท่านั้น แต่ด้วยความที่อาหารดูน่ากิน เลยตัดสินใจกินร้านนี้อยู่ดี
เราสั่งน้ำพริกหนุ่ม แคปหมู อร่อย ให้ 4 ดาว หัก 1 ดาวที่ให้น้อยไปหน่อย
แหนมทอด และแกงฮังเล อร่อยกลางๆไม่ได้โดเด่นมากนัก
บรรยากาศร้านค่อนข้างขลังๆ มีของสะสมเต็มไปหมด เราได้เลือกนั่งที่ดี เป็นส่วนตัว
ร้านเฮือนเพ็ญ รอบค่ำ
ที่ตั้ง : 1 ถ.จ่าบ้าน พระสิงห์ เมือง เชียงใหม่ 50200
เวลาเปิด : เปิดทุกวัน 17:00 - 22:00
Note : ราคากลางๆ ไม่แพงมาก อาหารอร่อย รอคิวนิดหน่อย แต่ไม่นานเลย
ขากลับแวะ Mahoree city of music ใกล้อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เป็นบาร์ที่มีดนตรีสดทุกวัน มีเครื่องดื่มทั้งแอลกอฮอลล์และนอนแอลกอฮอลล์ คนค่อนข้างเยอะ(มาก) เลือกนั่งด้านนอกจะไม่ได้ยินเสียงดนตรีสดเท่าไหร่ โดยรวมรู้สึกเฉยๆกับที่นี่ อาจจะเพราะไม่ได้เป็นคนที่อินกับกิจกรรมอะไรแบบนี้อยู่แล้วด้วย ขากลับมีฝนตกปรอยๆ แต่ที่พักเราไม่ไกลมากลยเดินได้แบบชิลๆ 
กลับถึงที่พักก็ลองปิ่นที่เพิ่งได้มาจากถนนวัวลาย
และอาร์ตผู้ทำการพยายามหลบกล้อง (แต่ไม่มิด) 55555